anarchy chocolate logo thailandnarchy Chocolate

เราอยากบอกเล่าเรื่องราวของสันติสุข ความรัก และช็อกโกแลต

  • คราฟต์ช็อกโกแลตจำกัดจำนวนการผลิตต่อครั้ง
  • วัตถุดิบธรรมชาติ 100% คัดสรรจากแหล่งผลิตในท้องถิ่น
  • ผลิตที่สวนโกโก้ Anarchy Farm ในจังหวัดตราด ประเทศไทย
  • ธุรกิจครอบครัว

สมัครรับข่าวสารทางอีเมลเพื่อรับส่วนลด

เราจะยินดีอย่างยิ่งหากคุณสมัครรับข่าวสารของเราทางอีเมล
คุณจะได้รับข้อเสนอพิเศษ โค้ดส่วนลด และสามารถเข้าถึงช็อกโกแลตรุ่นใหม่ของเราได้ก่อนวางจำหน่าย

ลิ้มรสช็อกโกแลตไทยแท้

เราทำอะไร?

ขั้นตอนและวิธีการผลิตช็อกโกแลตของเรามีจุดมุ่งหมายเพื่อการผลิตช็อกโกแลตชั้นเยี่ยมเพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มรสของช็อกโกแลตแท้ในแบบบีนทูบาร์

นักทำช็อกโกแลตก็คือผู้ที่นำเมล็ดโกโก้มาผลิตให้เป็นช็อกโกแลต

ในช่วงแรกเริ่มนั้น เมล็ดโกโก้จะนำเข้ามาจากประเทศที่เป็นแหล่งผลิตเมล็ดโกโก้ทั่วโลก ซึ่งต้องเป็นประเทศที่มีพื้นที่อยู่ในบริเวณ 20 องศาเหนือและใต้เส้นศูนย์สูตร จากนั้น จึงนำเมล็ดโกโก้มาผ่านกระบวนการต่างๆ (เช่น การตากแห้ง อบ ฝัด ขจัดสิ่งปลอมปน เติมสารประกอบต่างๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ เป็นต้น) ผสมผสานกันจนออกมาเป็นช็อกโกแลตแท่ง และนี่ คือเหตุผลที่ทำให้เราเรียกคราฟต์ช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตทำมือว่าเป็นการผลิตแบบ “Bean to bar ” หรือการผลิตช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้นั่นเอง ซึ่งในเว็บไซต์ของเราจะใช้ทั้งสองนี้ควบคู่กันไป

แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว ช็อกโกแลตทุกชนิดก็ล้วนแล้วแต่ผลิตจากเมล็ดโกโก้ด้วยขั้นตอนแบบ Bean to Bar ทั้งสิ้น แต่สำหรับเรา คำว่า Bean to Bar จะอธิบายถึงการผลิตช็อกโกแลตด้วยตนเองในทุกขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่การคัดสรรและเลือกซื้อวัตถุดิบเมล็ดโกโก้โดยตรงจากเกษตรกรผู้ผลิต จนกระทั่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการผลิตและได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ช็อกโกแล็ต แสนอร่อย

บริษัทช็อกโกแลตหลายๆ บริษัทในท้องตลาดมักจะเพียงแค่ซื้อผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป (ช็อกโกแลตแท้ โกโก้นิบส์ ผงโกโก้ และโกโก้บัตเตอร์) จากบริษัทอื่นๆ แล้วนำมาละลายและผสมเข้าด้วยกันเพื่อผลิตเป็นช็อกโกแลตสำเร็จรูป

ขณะที่การผลิตช็อกโกแลตแบบ Bean to Bar นั้น ทุกขั้นตอนของการผลิตจะกระทำโดยผู้ผลิตหรือบริษัทเดียวกัน ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดโกโก้จวบจนกระทั่งได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตเมคเกอร์ที่ผลิตช็อกโกแลตแบบBean to barนั้น จะต้องมองเห็นภาพรวมของกระบวนการผลิตทั้งหมด และเป็นผู้ที่คัดเลือกเมล็ดโกโก้และผู้จัดจำหน่าย ตลอดจนเครื่องจักรและเทคนิคที่ใช้ในการผลิต เวลาและอุณหภูมิที่ใช้ในการอบ และแม้แต่รูปแบบของแม่พิมพ์ช็อกโกแลตและบรรจุภัณฑ์

การผลิต Bean to Bar ช็อกโกแลตนั้นจำเป็นต้องทุ่มเทเวลา ความรัก และความอุตสาหะ (ไม่ต้องพูดถึงหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ และหยดน้ำตาที่สูญเสียไปมากมาย) มากกว่าการที่เพียงแค่ซื้อช็อกโกแลตสำเร็จรูปจากผู้ผลิตรายอื่นมาละลายและผสมให้เข้ากันไม่รู้นับกี่เท่าต่อกี่เท่า

เป็นที่ทราบกันดีว่า ช็อกโกแลตเมคเกอร์ผู้ผลิตช็อกโกแลตทำมือแบบ Bean to Bar นั้น จะทำการคัดเลือกเมล็ดโกโก้คุณภาพเยี่ยมจากแหล่งปลูกออร์แกนิกที่ยึดถือจริยธรรมในการประกอบอาชีพ ปราศจากการใช้แรงงานทาส และซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงมาในราคาที่เป็นธรรม

เราลองมาแยกย่อยถึงข้อแตกต่างที่สำคัญสามประการ:

คุณภาพของเมล็ดโกโก้ – บริษัทผู้ผลิตอินดัสเตรียลช็อกโกแลตจะซื้อเมล็ดโกโก้ในปริมาณมาก เนื่องจากมีราคาถูก ซึ่งอาจทำให้ได้เมล็ดโกโก้สายพันธุ์ที่ด้อยคุณภาพและได้รับการหมักอย่างไม่เหมาะสม

ส่วนผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตจะคัดสรรเฉพาะเมล็ดโกโก้คุณภาพสูงในท้องตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งรสชาติที่ดีที่สุด และมักยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าเพื่อซื้อสินค้าที่ผลิตตามหลักจริยธรรม

ส่วนผสม – อินดัสเตรียลช็อกโกแลตมักมีรายการส่วนผสมที่ยาวเหยียดและเต็มไปด้วยสารปรุงแต่งที่เห็นแล้วต้องตั้งคำถามถึงความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของน้ำตาล สารแต่งสี สารแต่งรส น้ำมันพืช และนมผงในปริมาณมาก ในขณะที่มีโกโก้แท้ (วัตถุดิบช็อกโกแลต) ในสัดส่วนที่ต่ำ

ขณะที่Bean to barช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง และโดยมากมักประกอบด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิกและโกโก้เพียงเท่านั้นสำหรับดาร์คช็อกโกแลต

การผลิต – การผลิตช็อกโกแลตในเชิงอุตสาหกรรมจะเป็นการผลิตช็อกโกแลตปริมาณมากด้วยเครื่องจักรในโรงงานที่ได้มาตรฐาน

ส่วนBean to barช็อกโกแลตนั้นจะเป็นการผลิตแบบทำมือในสเกลเล็กๆ และใช้เครื่องจักรให้น้อยที่สุด โดยแทนที่เครื่องจักรด้วยงานฝีมือที่ต้องอาศัยความรักและความหลงไหล ทำให้ช็อกโกแลตที่ได้มีลักษณะและรสชาติที่พิเศษไม่เหมือนใคร