ช็อกโกแลตเมคเกอร์คืออะไร?
นักทำช็อกโกแลตก็คือผู้ที่นำเมล็ดโกโก้มาผลิตให้เป็นช็อกโกแลต
ในช่วงแรกเริ่มนั้น เมล็ดโกโก้จะนำเข้ามาจากประเทศที่เป็นแหล่งผลิตเมล็ดโกโก้ทั่วโลก ซึ่งต้องเป็นประเทศที่มีพื้นที่อยู่ในบริเวณ 20 องศาเหนือและใต้เส้นศูนย์สูตร จากนั้น จึงนำเมล็ดโกโก้มาผ่านกระบวนการต่างๆ (เช่น การตากแห้ง อบ ฝัด ขจัดสิ่งปลอมปน เติมสารประกอบต่างๆ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติ เป็นต้น) ผสมผสานกันจนออกมาเป็นช็อกโกแลตแท่ง และนี่ คือเหตุผลที่ทำให้เราเรียกคราฟต์ช็อกโกแลตหรือช็อกโกแลตทำมือว่าเป็นการผลิตแบบ “Bean to bar ” หรือการผลิตช็อกโกแลตจากเมล็ดโกโก้นั่นเอง ซึ่งในเว็บไซต์ของเราจะใช้ทั้งสองนี้ควบคู่กันไป
Bean to bar หมายถึงอะไร?
แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว ช็อกโกแลตทุกชนิดก็ล้วนแล้วแต่ผลิตจากเมล็ดโกโก้ด้วยขั้นตอนแบบ Bean to Bar ทั้งสิ้น แต่สำหรับเรา คำว่า Bean to Bar จะอธิบายถึงการผลิตช็อกโกแลตด้วยตนเองในทุกขั้นตอน โดยเริ่มตั้งแต่การคัดสรรและเลือกซื้อวัตถุดิบเมล็ดโกโก้โดยตรงจากเกษตรกรผู้ผลิต จนกระทั่งเสร็จสิ้นขั้นตอนการผลิตและได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ช็อกโกแล็ต แสนอร่อย
เพราะเหตุใดฉันจึงควรเลือกช็อกโกแลตแบบ Bean to Bar ?
บริษัทช็อกโกแลตหลายๆ บริษัทในท้องตลาดมักจะเพียงแค่ซื้อผลิตภัณฑ์กึ่งสำเร็จรูป (ช็อกโกแลตแท้ โกโก้นิบส์ ผงโกโก้ และโกโก้บัตเตอร์) จากบริษัทอื่นๆ แล้วนำมาละลายและผสมเข้าด้วยกันเพื่อผลิตเป็นช็อกโกแลตสำเร็จรูป
ขณะที่การผลิตช็อกโกแลตแบบ Bean to Bar นั้น ทุกขั้นตอนของการผลิตจะกระทำโดยผู้ผลิตหรือบริษัทเดียวกัน ตั้งแต่การคัดสรรเมล็ดโกโก้จวบจนกระทั่งได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตเมคเกอร์ที่ผลิตช็อกโกแลตแบบBean to barนั้น จะต้องมองเห็นภาพรวมของกระบวนการผลิตทั้งหมด และเป็นผู้ที่คัดเลือกเมล็ดโกโก้และผู้จัดจำหน่าย ตลอดจนเครื่องจักรและเทคนิคที่ใช้ในการผลิต เวลาและอุณหภูมิที่ใช้ในการอบ และแม้แต่รูปแบบของแม่พิมพ์ช็อกโกแลตและบรรจุภัณฑ์
การผลิต Bean to Bar ช็อกโกแลตนั้นจำเป็นต้องทุ่มเทเวลา ความรัก และความอุตสาหะ (ไม่ต้องพูดถึงหยาดเหงื่อ เลือดเนื้อ และหยดน้ำตาที่สูญเสียไปมากมาย) มากกว่าการที่เพียงแค่ซื้อช็อกโกแลตสำเร็จรูปจากผู้ผลิตรายอื่นมาละลายและผสมให้เข้ากันไม่รู้นับกี่เท่าต่อกี่เท่า
เป็นที่ทราบกันดีว่า ช็อกโกแลตเมคเกอร์ผู้ผลิตช็อกโกแลตทำมือแบบ Bean to Bar นั้น จะทำการคัดเลือกเมล็ดโกโก้คุณภาพเยี่ยมจากแหล่งปลูกออร์แกนิกที่ยึดถือจริยธรรมในการประกอบอาชีพ ปราศจากการใช้แรงงานทาส และซื้อวัตถุดิบคุณภาพสูงมาในราคาที่เป็นธรรม
ข้อแตกต่างที่สำคัญระหว่างคราฟต์ช็อกโกแลตช็อกโกแลตอุตสาหกรรมคืออะไร?
เราลองมาแยกย่อยถึงข้อแตกต่างที่สำคัญสามประการ:
คุณภาพของเมล็ดโกโก้ – บริษัทผู้ผลิตอินดัสเตรียลช็อกโกแลตจะซื้อเมล็ดโกโก้ในปริมาณมาก เนื่องจากมีราคาถูก ซึ่งอาจทำให้ได้เมล็ดโกโก้สายพันธุ์ที่ด้อยคุณภาพและได้รับการหมักอย่างไม่เหมาะสม
ส่วนผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตจะคัดสรรเฉพาะเมล็ดโกโก้คุณภาพสูงในท้องตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งรสชาติที่ดีที่สุด และมักยอมจ่ายในราคาที่สูงกว่าเพื่อซื้อสินค้าที่ผลิตตามหลักจริยธรรม
ส่วนผสม – อินดัสเตรียลช็อกโกแลตมักมีรายการส่วนผสมที่ยาวเหยียดและเต็มไปด้วยสารปรุงแต่งที่เห็นแล้วต้องตั้งคำถามถึงความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมของน้ำตาล สารแต่งสี สารแต่งรส น้ำมันพืช และนมผงในปริมาณมาก ในขณะที่มีโกโก้แท้ (วัตถุดิบช็อกโกแลต) ในสัดส่วนที่ต่ำ
ขณะที่Bean to barช็อกโกแลตจะมีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง และโดยมากมักประกอบด้วยน้ำตาลทรายออร์แกนิกและโกโก้เพียงเท่านั้นสำหรับดาร์คช็อกโกแลต
การผลิต – การผลิตช็อกโกแลตในเชิงอุตสาหกรรมจะเป็นการผลิตช็อกโกแลตปริมาณมากด้วยเครื่องจักรในโรงงานที่ได้มาตรฐาน
ส่วนBean to barช็อกโกแลตนั้นจะเป็นการผลิตแบบทำมือในสเกลเล็กๆ และใช้เครื่องจักรให้น้อยที่สุด โดยแทนที่เครื่องจักรด้วยงานฝีมือที่ต้องอาศัยความรักและความหลงไหล ทำให้ช็อกโกแลตที่ได้มีลักษณะและรสชาติที่พิเศษไม่เหมือนใคร
ผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตได้เมล็ดโกโก้มาจากไหน?
ช็อกโกแลตเมคเกอร์ผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตอาจเดินทางไปทุกหนทุกแห่งเพื่อเสาะแสวงหาเมล็ดโกโก้ที่ดีที่สุด หรืออาจซื้อจากผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่าย ผู้ผลิต พันธมิตร หรือแม้แต่จากฟาร์มใดฟาร์มหนึ่งเพียงแห่งเดียว
และมีผู้ผลิตจำนวนไม่มากที่ปลูกต้นโกโก้ด้วยตนเอง และ Anarchy Chocolate คือหนึ่งในนั้น
เนื่องจากเมล็ดโกโก้เป็นส่วนประกอบที่สำคัญเพียงอย่างเดียวในการผลิตBean to barช็อกโกแลตคุณภาพเยี่ยม ผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตจึงให้ความสำคัญกับการสรรหาเมล็ดโกโก้จากแหล่งผลิตที่น่าเชื่อถือและเป็นที่ไว้วางใจ ซึ่งสามารถรับประกันและมอบสวัสดิภาพที่ดีให้แก่เกษตรกรซึ่งทำงานให้แก่ตน ตลอดจนมีการจ่ายค่าจ้างที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยเพื่อเป็นรางวัลให้แก่การทุ่มเททำงานอย่างหนักของพวกเขา ซึ่งนี่มักเรียกว่า “การค้าขายโดยตรง” โดยบางบริษัทอาจได้รับการรับรอง “การค้าขายที่เป็นธรรม (Fair Trade)” โดยรับประกันว่าคู่ค้าบุคคลภายนอกของบริษัทมีการจ่ายค่าจ้างให้แก่เกษตรกรในอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ย
ที่ Anarchy Chocolate คัดสรรเมล็ดโกโก้คุณภาพเยี่ยมจาก “สุริยา โกโก้ ฟาร์ม” ในจังหวัดจันทบุรี และจังหวัดเชียงใหม่ หรือจากป่าสวนครัวและสวนผลไม้ของเราในจังหวัดตราด ประเทศไทย ที่ๆ เราทำการเพาะปลูกด้วยวิถีการเกษตรแบบยั่งยืน
คราฟต์ช็อกโกแลตทุกชนิด เป็นช็อกโกแลตออร์แกนิกหรือไม่?
คราฟต์ช็อกโกแลตบางยี่ห้อได้รับการรับรองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก แต่บางยี่ห้อก็ไม่ แต่ไม่ได้หมายความว่าช็อกโกแลตที่ไม่ได้การรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกจะประกอบด้วยสารเคมีหรือสารกำจัดศัตรูพืชที่เป็นอันตราย ไม่ใช่เลย!
ค่าใช้จ่ายในการขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกนั้นสูงเกินกว่าที่เกษตรกรในประเทศโลกที่สามจะสามารถจ่ายไหว อย่างไรก็ตาม เมล็ดโกโก้ของพวกเขาอาจมีความ “เป็นธรรมชาติ” เทียบเท่ากับเมล็ดโกโก้ออร์แกนิกที่ได้รับการรับรอง ขณะเดียวกัน การยื่นขอใบรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกก็อาจเป็นไปเพียงเพื่อให้สามารถจำหน่ายพืชผลในราคาที่สูงขึ้นก็เป็นได้
เมล็ดโกโก้ที่เราปลูกไว้ที่ Anarchy Farm ไม่ได้ผ่านการรับรองผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกเพราะเราไม่เชื่อว่าเราจำเป็นต้องขอให้ภาครัฐมารับรองก่อนที่เราจะปลูก “อาหารที่แท้จริง” เราเชื่อแค่ว่าอาหารทุกชนิดเป็นอาหารออร์แกนิกหากได้รับการเพาะปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี เราเพาะปลูกอาหารส่วนใหญ่ของเรารวมถึงเมล็ดโกโก้โดยยึดหลักการเพาะปลูกตามธรรมชาติและวิถีการเกษตรแบบยั่งยืน
หากในการเพาะปลูกพืชมีการใช้ฮอร์โมน ยาฆ่าแมลงหรือยาฆ่าหญ้าควรมีการระบุข้อมูลไว้บนฉลากของผลิตภัณฑ์ด้วย และผู้บริโภคควรมีความตระหนักถึงผลิตภัณฑ์ที่ตนจับจ่ายซื้อหาและนำมาบริโภค โดยผู้บริโภคควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้าตามความเหมาะสม ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการค้าและการตลาดแบบเสรี
ทั้งนี้ ระบบการติดฉลากและรับรองอาหารออร์แกนิกควรใช้อุตสาหกรรมการเกษตรขนาดใหญ่เพื่อความโปร่งใส แทนที่จะมาใช้กีดกันให้เกษตรกรรายย่อยต้องออกจากธุรกิจเนื่องจากข้อจำกัดด้านราคา
เรายังคงซื้อเมล็ดโกโก้ออร์แกนิกที่ได้รับการรับรองเมื่อเราสามารถทำได้ แต่สำหรับเราแล้ว เราให้ความสำคัญกับการสร้างสัมพันธภาพที่ดีและทำความรู้จักกับเกษตรกรคู่ค้าของเรา เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเพาะปลูกเมล็ดโกโก้ด้วยวิธีธรรมชาติตามแบบที่มันควรจะเป็น
ช็อกโกแลตจากแหล่งผลิตเพียงหนึ่งเดียว (Single Origin Chocolate) คืออะไร?
ช็อกโกแลตจากแหล่งผลิตเพียงหนึ่งเดียว หมายถึง การที่เมล็ดโกโก้ที่ใช้ผลิตช็อกโกแลตหนึ่งแท่งได้มาจากกลุ่มผู้ค้าหรือผู้ผลิตในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเพียงแห่งเดียว
ตัวอย่างเช่น ช็อกโกแลตแท่งจากเมล็ดโกโก้แท้ของ Anarchy Chocolate ผลิตด้วยเมล็ดโกโก้จากผป่าสวนครัวและสวนผลไม้เชิงเกษตรวิถียั่งยืนของเราเอง เราจึงติดฉลากช็อกโกแลตแท่งของเราว่าเป็น “ช็อกโกแลตจากแหล่งผลิตเพียงหนึ่งเดียวในจังหวัดตราด ประเทศไทย”
ดังนั้น Bean to barช็อกโกแลตที่เราผลิตขึ้นทุกแท่ง จะติดฉลากตามชื่อของแต่ละจังหวัดที่เราซื้อเมล็ดโกโก้มาผลิต เช่น จันทบุรีและเชียงใหม่ เป็นต้น
ฉันควรเลือกเฉพาะช็อกโกแลตจากแหล่งผลิตในประเทศใดประเทศหนึ่งหรือแหล่งใดแหล่งหนึ่งเท่านั้น ใช่หรือไม่?
ช็อกโกแลตที่ผลิตในบางประเทศจะมีชื่อเสียงมากกว่าประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เหตุผลที่ดีที่จะเลือกหรือหลีกเลี่ยงเมล็ดโกโก้จากประเทศใดประเทศหนึ่ง
เพราะไม่ใช่ว่าไวน์ทุกยี่ห้อที่ผลิตในประเทศอิตาลีหรือฝรั่งเศสนั้นควรค่าแก่การซื้อหา เฉกเช่นเดียวกับช็อกโกแลตต่างๆ ที่มีจำหน่ายในโลกนี้ที่ชื่อเสียงของประเทศแหล่งผลิตไม่ใช่ทุกอย่าง ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่ควรพิจารณา เช่น สภาพการทำงานและค่าจ้างของเกษตรกรผู้เพาะปลูกเมล็ดโกโก้ สายพันธ์และพันธุกรรมของพืช พื้นที่เพาะปลูก กระบวนการหลังเก็บเกี่ยว และทักษะความสามารถของผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลต
ประเทศไทยเป็นประเทศเล็กๆ ที่กำลังก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในโลกของช็อกโกแลต โดยในปัจจุบัน เริ่มมีผู้ให้ความสนใจการปลูกเมล็ดโกโก้ในฐานะพืชเศรษฐกิจ ตลอดจนเริ่มมีผู้ผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตรายย่อยที่หันมาผลิตBean to barช็อกโกแลตรสเลิศ แล้วคุณล่ะ เคยลองชิมBean to barช็อกโกแลตจากประเทศไทยบ้างหรือยัง?
ค่าร้อยละของช็อกโกแลตหมายถึงอะไร? (ตัวอย่างเช่น 85% ประเทศไทย)
ค่าอัตราส่วนร้อยละที่แสดงบนฉลากของBean to barช็อกโกแลต หมายถึง ปริมาณของโกโก้เมื่อเทียบกับส่วนประกอบอื่นๆ ในผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตสำเร็จรูป คิดตามน้ำหนัก
เนื่องจากดาร์กช็อกโกแลตมีส่วนผสมของวัตถุดิบเพียงสองชนิด อัตราส่วนดังกล่าวสำหรับเราก็เพียงแค่ น้ำหนักของเมล็ดโกโก้ (85%) ต่อน้ำตาลทรายออร์แกนิก (15%)
ร้อยละของโกโก้คือค่าที่บ่งบอกคุณภาพของช็อกโกแลตใช่หรือไม่?
ค่าร้อยละของโกโก้ในช็อกโกแลตหนึ่งแท่งไม่ใช่ตัวบ่งบอกคุณภาพของช็อกโกแลต แต่เป็นเพียงแค่การระบุปริมาณของโกโก้ในช็อกโกแลตดังกล่าว และไม่ได้ระบุถึงคุณภาพของโกโก้แต่อย่างใด
ค่าร้อยละของโกโก้ในช็อกโกแลตหนึ่งแท่งเป็นเพียงตัวเลขที่บ่งบอกว่าช็อกโกแลตจะมีรสขมหรือหวานมากน้อยเพียงใด
คุณทำการคัดสรรเมล็ดโกโก้มาจากที่ไหนและอย่างไร?
ในการผลิต “Bean to barช็อกโกแลต” ของเรา เราได้ซื้อเมล็ดโกโก้จากจังหวัดเชียงใหม่ในภาคเหนือของประเทศไทย และจากสวนโกโก้เก่าแก่อายุกว่าสิบปีในจังหวัดจันทบุรีซึ่งเป็นจังหวัดเพื่อนบ้านของเราซึ่งใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์จากฟาร์มของเราเพียง 30 นาที
ต่อมาในช่วงต้นปี 2019 เราได้เริ่มปลูกโกโก้ในสวนผลไม้ของเราด้วยวิธีทำการเกษตรแบบธรรมชาติ นอกจากนี้ เรายังได้ปลูกต้นโกโก้ในป่าสวนครัวตามวิถีการเกษตรแบบยั่งยืนของเรา ซึ่งเราได้ใช้เมล็ดโกโก้ที่เราปลูกในฟาร์มทั้งสองแห่งในการผลิตBean to barช็อกโกแลตสูตรพิเศษของเรา
การเพาะปลูกโกโก้ด้วยตนเองทำให้เราสามารถควบคุมกระบวนการผลิตได้ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหว่านเมล็ดพันธุ์โกโก้ไปจนถึงการสรรค์สร้างช็อกโกแลตแสนอร่อยที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คุณใช้วัตถุดิบอื่นๆ นอกเหนือจากเมล็ดโกโก้ในการผลิตช็อกโกแลตด้วยหรือไม่?
ใช่ เราใช้ส่วนประกอบอื่นๆ ด้วย ขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ที่เราทำ
โดยสำหรับดาร์กช็อกโกแลต เราใช้เมล็ดโกโก้และน้ำตาลทรายออร์แกนิก
ส่วนในการผลิตช็อกโกแลตนม เราเติมนมผงและโกโก้บัตเตอร์ลงไปด้วย
ทั้งนี้ เราผลิตโกโก้บัตเตอร์ด้วยตนเองโดยการบีบอัดเมล็ดโกโก้
สำหรับการปรุงรสช็อกโกแลต เราแต่งรสด้วยโกโก้บัตเตอร์และพริกหรือผลไม้ตามฤดูกาลที่ได้จากสวนหรือป่าสวนครัวตามวิถึการเกษตรแบบยั่งยืนของเรา
ทุกส่วนประกอบของเราเป็นส่วนประกอบออร์แกนิกจากธรรมชาติ 100%
คุณสามารถผลิตช็อกโกแลตให้มีรสและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ได้อย่างไรโดยที่ไม่ใช้ส่วนผสมอื่นๆ?
เช่นเดียวกันกับไวน์ชั้นเลิศ เมล็ดโกโก้จากสวนหรือฟาร์มแต่ละแห่งจะมีรสเฉพาะตัว
โดยรสของโกโก้จะแปรผันตามลักษณะของดินที่ใช้ปลูก ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ความหลากหลายของสายพันธุ์ พืชชนิดอื่นๆ ที่ปลูกร่วมกัน (เช่น กาแฟ ฝรัง กล้วย เป็นต้น) การเก็บเกี่ยว การหมัก การตากแห้ง และการอบเมล็ดโกโก้
หัวใจสำคัญของศิลปะในการผลิตBean to barช็อกโกแลตก็คือการดึงเอารสชาติที่ต้องการออกมา เพื่อสรรค์สร้างให้ได้ช็อกโกแลตที่มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ ที่หาไม่ได้จากช็อกโกแลตที่ผลิตในระดับอุตสาหกรรมทั่วไป
ฉันจะต้องเก็บช็อกโกแลตอย่างไร?
ควรเก็บช็อกโกแลตในที่แห้งและเย็น ซึ่งมีอุณหภูมิระหว่าง 16 ถึง 18 องศาเซลเซียส (60 ถึง 64 องศาฟาเรนไฮต์)
คุณใช้น้ำตาลประเภทไหนในการผลิต?
เราใช้น้ำตาลทรายออร์แกนิกคุณภาพสูง (จากประเทศไทย) อีกทั้งยังเหมาะสำหรับผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติและวีแกน
ช็อกโกแลตของคุณปราศจากกลูเตน (Gluten Free) ใช่หรือไม่?
กลูเตนเป็นโปรตีนที่พบในธัญพืชไม่ใช่ในพืชที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเช่นโกโก้ ดังนั้น โดยธรรมชาติแล้วคราฟต์ช็อกโกแลตทุกชนิดจึงปราศจากกลูเตน
บางบริษัทอาจได้รับการรับรองว่าว่าช็อกโกแลตของตนเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากกลูเตน ซึ่งหมายความว่าโรงงานดังกล่าวไม่มีการนำกลูเตนมาใช้ในกระบวนการผลิต
ในขณะที่ผู้ผลิตที่เหลือจะต้องระบุข้อความ “อาจมีส่วนผสมของกลูเตน” ไว้บนบรรจุภัณฑ์ตามกฎหมาย แม้ว่าในความเป็นจริงเราจะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นกลูเตนอยู่ในช็อกโกแลตที่เราทำก็ตาม ลองศึกษาข้อมูลดูสิ!
Anarchy Chocolate เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นวีแกนหรือไม่?
แน่นอนที่สุด! ช็อกโกแลตของเราไม่มีส่วนผสมของผลิตภัณฑ์จากสัตว์
ช็อกโกแลตของคุณได้รับการรับรอง “การค้าขายที่เป็นธรรม (Fair Trade)” หรือไม่?
Bean to bar ช็อกโกแลตของเราไม่ได้รับการรับรอง Fair Trade แต่สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดก็คือการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับเกษตรกรในท้องถิ่นและการไปให้ถึงเป้าหมายสูงสุดของเราด้านความโปร่งใสและความไว้เนื้อเชื่อใจในกระบวนการสรรหาวัตถุดิบของเรา สัมพันธภาพที่แนบแน่นระหว่างเรากับผู้ผลิตและผู้ค้าเมล็ดโกโก้เป็นเครื่องรับประกันถึงความเท่าเทียมและความยุติธรรมในการทำการค้ากับเกษตรกรท้องถิ่น
ในมุมมองของเรา เราไม่ได้นำ Fair Trade มาใช้กับเมล็ดโกโก้ที่เราปลูก เก็บเกี่ยว และผลิตเป็นช็อกโกแลตโดยตรง แต่เรามอบการค้าขายที่เป็นธรรมให้แก่คุณ!
เพราะเหตุใดคราฟต์ช็อกโกแลตจึงมีราคาแพงกว่าช็อกโกแลตที่วางจำหน่ายในร้านค้าทั่วไป?
มีปัจจัยต่างๆ มากมายที่ส่งผลต่อราคาช็อกโกแลตแท่งของเรา ได้แก่:
- วัตถุดิบ (เมล็ดโกโก้และน้ำตาลทรายออร์แกนิก) มีราคาที่สูงมาก
- เวลาและแรงงานที่ใช้ในการเพาะปลูกโกโก้และผลิตช็อกโกแลตทำมือในรูปแบบของอุตสาหกรรมขนาดเล็ก
- ต้นทุนของเครื่องจักร (เครื่องผสม เตาอบ เครื่องบด เครื่องฝัด มาตรวัดความละเอียดของเครื่องบด ตู้เย็น และแม่พิมพ์ ฯลฯ) ที่ใช้ในการผลิตและควบคุมความสม่ำเสมอของผลิตภัณฑ์
- การออกแบบ จัดพิมพ์ และจัดทำบรรจุภัณฑ์
- การจัดทำเว็บไซต์และการทำการตลาดของแบรนด์
ทางเดียวที่จะทำให้ธุรกิจของเราคงอยู่และเติบโตได้อย่างยั่งยืนก็คือการตั้งราคาของช็อกโกแลตให้สูงกว่าราคาของช็อกโกแลตในผลิตในระดับอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตาม เพื่อควบคุมราคาให้อยู่ในระดับที่เอื้อมถึงได้เพื่อให้ทุกคนได้มีโอกาสลิ้มรสช็อกโกแลตสัญชาติไทยของเรา เราได้:
- จำกัดขั้นตอนการจัดหาวัตถุดิบให้สั้นที่สุด และสนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น
- นอกจากนี้ เรายังปลูกต้นโกโก้ในสวน Anarchy Farm และป่าสวนครัวตามวิถีการเกษตรแบบยั่งยืนของเราเอง
- เราไม่นำเข้าเมล็ดโกโก้จากต่างประเทศ
แต่ถึงกระนั้น Anarchy Chocolate ก็เป็นเพียงแค่ธุรกิจครอบครัวที่ต้องหาหนทางที่จะประคับประคองให้ธุรกิจของเราไปได้ตลอดรอดฝั่งและประสบความสำเร็จในระยะยาว ซึ่งพนักงานประจำส่วนใหญ่ไม่มีทางทุ่มเทเวลา ตลอดจนแรงกายและแรงใจอย่างมหาศาลและต่อเนื่องยาวนานในการสร้างสรรค์และผลิตคราฟต์ช็อกโกแลตอย่างที่พวกเราทำ
ด้วยเหตุผลต่างๆ เหล่านี้ เราจึงคิดว่าเราได้พยายามอย่างยิ่งที่จะผลิตสุดยอดช็อกโกแลตแท่งคุณภาพเยี่ยมตลอดจนผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตอื่นๆ ในราคาที่จับต้องได้ ส่วนคุณ ก็เพียงแค่ดื่มด่ำกับรสชาติของความอิสระเสรีที่เรามอบให้!
ช็อกโกแลตเมคเกอร์หรือนักทำช็อกโกแลต และ ช็อกโกแลตเทียร์ (Chocolatier) หรือผู้ผลิตช็อกโกแลต แตกต่างกันอย่างไร?
ช็อกโกแลตเมคเกอร์คือผู้ที่ซื้อเมล็ดโกโก้แล้วนำมาผลิตเป็นช็อกโกแลตด้วยตนเองในทุกขั้นตอน
ส่วนช็อกโกแลตเทียร์นั้นจะซื้อหรือนำช็อกโกแลตสำเร็จรูปทำการละลายแล้วแต่งกลิ่นและรสให้เป็นผลิตภัณฑ์ช็อกโกแลตพร้อมรับประทานหลากหลายรสชาติ
ดาร์กช็อกโกแลตมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง?
ข่าวดีก็คือ ดาร์กช็อกโกแลตดีต่อสุขภาพของคุณ ตราบเท่าที่ไม่ใช่ช็อกโกแลตรสหวานจัดที่มีน้ำตาลสูงแบบช็อกโกแลตที่ผลิตจากโรงงานทั่วไป
ดาร์กช็อกโกแลตประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ แร่ธาตุ และสารอาหารนานาชนิดดีต่อสุขภาพของคุณ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ และสารธีโอโบรมีน (theobromine) ยังช่วยให้คุณอารมณ์ดีอีกด้วย!
ดาร์กช็อกโกแลตแบบแท่งน้ำหนัก 100 กรัม ที่มีปริมาณโกโก้ตั้งแต่ 70% ขึ้นไป จะมีสารอาหารดังต่อไปนี้:
- ไฟเบอร์ 11 กรัม
- ธาตุเหล็ก คิดเป็น 67% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- แมกนีเซียม คิดเป็น 58% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- ทองแดง คิดเป็น 89% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
- แมงกานีส คิดเป็น 98% ของปริมาณที่ร่างกายควรได้รับต่อวัน
ดูๆ ไปแล้ว ก็สมเหตุสมผลทีเดียวที่คุณจะเพิ่มช็อกโกแลตชิ้นเล็กๆ สองสามชิ้นหรือโรยเมล็ดโกโก้ลงบนซีเรียลของคุณเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร
เพราะเหตุใดช็อกโกแลตจึงได้ชื่อว่าเป็น “อาหารแห่งความรัก”
คุณทราบหรือไม่ว่าช็อกโกแลตช่วยกระตุ้นการหลั่งของเอ็นดอร์ฟินในสมอง โดยเอ็นดอร์ฟินเป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติที่ทำให้เรารู้สึกเป็นสุขและพึงพอใจ
ช็อกโกแลตประกอบไปด้วย “ยาปลูกรัก” ตามธรรมชาติที่เรียกว่าทริปโตแฟน ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นที่สมองใช้สร้างสารไนอะซินซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นสารสื่อประสาทที่เรียกว่าซีโรโตนิน โดยซีโรโตนินในระดับสูงจะก่อให้เกิดความรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ ซึ่งเป็นความรู้สึกเดียวกันกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อเราตกหลุมรัก
และต่อไปนี้คือข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ — ช็อกโกแลตทำจากเมล็ดของต้นธีโอโบรมาโกโก้ และคำว่า ธีโอโบรมา (Theobroma) ในภาษากรีก หมายถึง ‘อาหารของพระเจ้า’
อาณาจักรโบราณอย่างแอซเทคเคารพบูชาต้นโกโก้และนำเมล็ดของมันมาใช้แทนเงินตรา โดยพวกเขาเชื่อว่าต้นโกโก้คือแหล่งกำเนิดของพละกำลังและความมั่งคั่ง
สุขภาพของคุณก็คือทรัพย์สินและความมั่งคั่งของคุณ ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะคิดว่าคุณคือเทพเจ้าแห่งความรักหรือแค่ต้องการรู้สึกตกหลุมรักวันละนิดละหน่อย การกินช็อกโกแลตเพิ่มขึ้นอีกนิด ก็จะทำให้คุณรู้สึกดีมากยิ่งขี้น!
เพราะเหตุใดคุณจึงไม่ควรให้สุนัขกินช็อกโกแลต?
ส่วนประกอบที่เป็นพิษในช็อกโกแลตก็คือคาเฟอีนและธีโอโบรมีน
ในขณะที่ร่างกายของคนเราสามารถเผาผลาญและเปลี่ยนสภาพของคาเฟอีนและธีโอโบรมีนได้อย่างง่ายดาย ทำให้เราเพียงแค่รู้สึกเวียนศีรษะเล็กน้อยเมื่อได้รับสารกระตุ้นทั้งสองชนิด แต่สำหรับเจ้าตูบเพื่อนรักของเรา ร่างกายของพวกมันจะกำจัดสารทั้งสองชนิดนี้ได้ช้ากว่าเรามาก ทำให้มีระดับของสารพิษในร่างกายปริมาณสูง
โดยสุนัขพันธุ์ใหญ่จะสามารถบริโภคช็อกโกแลตได้ในปริมาณที่มากกว่าสุนัขพันธุ์เล็กก่อนที่จะก่อให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ ดังนั้น ช็อกโกแลตนมปริมาณเพียงเล็กน้อยที่มีอยู่ในบราวนี่ก็อาจจะทำให้เจ้าตูบเพียงแค่เกิดอาการท้องไส้ปั่นป่วนจนทำให้อาเจียนหรือถ่ายเหลวเท่านั้นเอง
ดาร์กช็อกโกแลตจะมีความเข้มข้นของธีโอโบรมีนในระดับสูง และอาจทำให้สุนัขมีอาการสั่นเนื่องจากกล้ามเนื้อหดเกร็ง ชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง มีเลือดออกในอวัยวะภายใน จนถึงภาวะหัวใจวายได้
โดยสัญญาณเตือนแรกเริ่มว่าสุนัขของคุณมีอาการพิษจากธีโอโบรมีน ได้แก่ อาการลุกลี้ลุกลนผิดปกติ วิธีรักษาเพียงอย่างเดียวของการได้รับสารพิษจากช็อกโกแลตก็คือการทำให้สุนัขอาเจียนออกมาโดยเร็วที่สุดหลังจากที่กินช็อกโกแลตเข้าไป โดยยิ่งช็อกโกแลตอยู่ในระบบโลหิตนานขื้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นอันตรายต่อสุนัขมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
หากคุณกำลังกังวลว่าสุนัขของคุณอาจจะกินช็อกโกแลตเข้าไปในปริมาณมากและมีอาการลุกลี้ลุกลนผิดปกติ โปรดติดต่อสัตวแพทย์ในพื้นที่ใกล้เคียงทันที
Anarchy Chocolate – Peace, Love & Chocolate